• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นเพราะว่า ? รักษาได้เช่นไร ?

Started by kaidee20, January 07, 2023, 03:23:57 AM

Previous topic - Next topic

kaidee20

ตับมีปัญหา จะต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับได้เช่นเดียวกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อเสียง กล่าวย้ำเตือนถึงจุดสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย หากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และเมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าตับกำลังประสบปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? และควรจะดูแลบำรุงยังไง..? บทความนี้มีคำตอบให้ท่าน  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นราวกับศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด ฯลฯ) และยังเป็นโรงงานดัดแปลง (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็ราวกับตายทั้งเป็น คำพูดที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการสร้าง
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสุขภาพร่างกาย ซ่อมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ดังเช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารรวมทั้งเกลือแร่เอาไว้ในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารประเภทไขมัน แล้วก็ถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินรวมทั้งเกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป อาหารแล้วก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกจากร่างกายในรูปแบบฉี่ หรือถ่ายมาพร้อมกับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องพบเจอกับปัญหาทรุดโทรมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งยังจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกิดขึ้นและมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่กำเนิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีต้นเหตุจากการกระทำทำร้ายตับยกตัวอย่างเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบรับประทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความเคร่งเครียด
4.ชอบนอนดึก ตื่นสาย
5.รับประทานยาหรืออาหารเสริมเยอะเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ
10.ทำงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเซ็กส์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราบางครั้งก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานหนัก 1 วันแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในทุกวี่ทุกวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองสังเกตอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา เป็นต้นว่า มีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนล้า , มีปัญหาสำหรับการนอน , ท้องอืดบ่อยๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความอยากอาหารลดน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯถ้าเกิดคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวข้างต้นแล้วยังไม่สนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้สึกตัวอีกครั้งความน่ากลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยด้านทฤษฎีหากเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ เพราะฉะนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตนเองได้ แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเมินเฉยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะหากตับอักเสบบ่อยๆจนเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใส่ใจบำรุงตับเพื่อคุ้มครองป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเยอะขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
ลดของกินไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงของหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและก็รสชาติแทนน้ำตาลและก็ผงชูรส
ทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขอนามัย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรือขั้นต่ำ 60 นาที/อาทิตย์)
ระหว่างที่กำลังทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือเปลี่ยนแปลงอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปขจัดของเสียในเลือด รวมถึงก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) หลีกเลี่ยงการรับสารเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้ลดน้อยลงที่สุด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นถ้าหากปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือถ้ามีความคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำได้ยาก ลองมามองเทคนิคน่าสนใจ ที่สามารถจะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องใหญ่" ของกินที่เรารับเข้าไปในทุกวันก็นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงให้แก่ตับได้เช่นเดียวกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรารับประทานอะไรลงไป.. และนี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจซึ่งสามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามท้องตลาดทั่วๆไป เปิดตู้แช่เย็นเราก็เจอ แต่เครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้ซ่อนเร้นไปด้วยคุณประโยชน์ที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และป้องกันตับจากสารพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับการลดไขมันในคนที่มีสภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
แม้ชื่อจะไม่เคยได้ยินคนอีกหลายๆคน แต่ว่ามันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์เป็น กรดโอลีโนลิกและก็กรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมทั้งสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นดีเลิศ โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย ทั้งยังพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวจำนวน 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย และก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดวันยังช่วยดีท็อกซ์ชะล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่รู้ตัว เมื่อต้องใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญซึ่งสามารถป้องกันแล้วก็ลดความเสี่ยงสำหรับการเป็น ตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดนิยมที่เอาชีวิตชาวไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเราสร้างขึ้นเองได้.. โดยแม้สงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากขอคำแนะนำผู้ที่มีความชำนาญ ขอรับคำแนะนำปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage รวมทั้ง Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้ที่มีความเชี่ยวชาญแล้วก็เภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในทุกเวลา