เลิกเอาใจใส่ความนึกคิดของบุคคลอื่น 10 แบบนี้ควรจะเลิกทำ

[Chanapot]

มนุษย์เราอายุเพิ่มขึ้นทุกวินาที เรื่องบางเรื่องก็ทำให้ปวดหัวจนถึงร่างกายแก่กว่าอายุไปแล้วรวมทั้งคนที่ย่ างเข้ามาสู่วัย 35 ปีขึ้นไปนั้น น่าจะผ่านปัญหามาล้นหลามบางโอกาสก็คาดหมาย

กับคนอื่นๆเยอะเกินไปคิดมากกับคนที่อยู่รอบข้างไปทุกเรื่องจนกระทั่งไม่มีเวลาของตัวเองบ้างเลยวันนี้ลองมอง 10 สิ่งที่ควรจะเลิกสนใจ เพื่อเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวและก็ดำรงชีวิตให้มีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ


1. อย่ าเอาใจใส่โลกโซเชียลมากสักเท่าไรนัก แต่ต้องตั้งใจกับชีวิตจริงให้มากกว่า


2. เลิกตามกระแสของใหม่ เช่น โทรศัพท์มือถือแบบใหม่ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า อื่นๆอีกมากมายเพราะว่าเงินจึงควรเก็บให้มากกว่าจ่ายแล้วนะ

3. เลิกใส่ใจความคิดของผู้อื่นได้แล้วเราจะต้องทราบว่าตนเองอยากอะไรเป้าหมายในชีวิตเป็นอย่างไร ไม่ใช่มัวแต่ไปทำในสิ่งที่คนอื่นๆอย ากจะให้ทำอยู่อย่ างนั้น

4. อย่ าไปแคร์ว่าบุคคลอื่นจะมองคุณอย่ างไร แม้กระนั้นต้องสนใจว่าคุณจะมองดูตัวเองอย่ างไรดีมากกว่า

5. อย่ าใส่ใจความคิดผู้อื่นที่มีต่อคนรักของคุณเพราะจะรักหรือไม่รักก็อยู่ที่ดวงใจคุณเลือกเองถ้าวินิจฉัยตามความคิดคนอื่นๆแล้วมันจะดีได้ยังไง ใส่ใจหัวข้อการสร้างตัวสร้างอนาคตจะดีมากกว่า

6. เวลาเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดคุณจำเป็นต้องคิดให้ดี ว่าควรจะแบ่งเวลาที่สำคัญนั้นให้กับอะไรรวมทั้งให้กับผู้ใดกันบ้าง


7. อย่ าฉลองวันเกิดแบบจัดเต็มหรือเฮฮาปาร์ตี้มากเท่าไรนัก คุณไม่ใช่วัยรุ่นแล้วนะแค่ขอบคุณคุณพ่อและก็คุณแม่ จัดงานสังสรรค์เล็กๆกับครอบครัวดีมากยิ่งกว่า

8. อย่ าไปตั้งใจกับเรื่องซุบซิบนินทาให้มากสักเท่าไรนัก เราทุกคนหนีคนนินทาไม่พ้นอยู่แล้วเราควรเอาเวลาไปทำสิ่งที่จำเป็นจะดีกว่านะ

9. ความโสดไม่ใช่ปัญหาระดับนานาชาติความโสดมิได้น่าสะพรึงกลัว กลับทำให้พวกเราสบายใจการสมรส การมีคู่ไม่ใช่กฎข้อบังคับมันอยู่ที่ความชอบใจของแต่ละคน

10. พึ่งพาตัวเองให้ได้ เลิกขอเงินใครกันแน่ใช้ได้แล้วควรเลี้ยงดูตนเองให้ได้ เลี้ยงดูครอบครัวได้สร้างความมั่นคงและยั่งยืนในทุกๆด้านให้ตนเองวันหนึ่งเมื่อพวกเราเติบโตขึ้น ยุคสมัยจะสอนให้พวกเรารู้ว่าอะไรที่เราควรจะใส่ใจจริงๆ

อะไรที่เราน่าจะปล่อยวางมันไม่มีผู้ใดอยู่ยาวนานหรอก หากวันนี้คุณก้าวเข้ามาสู่วัย 35 ปีขึ้นไป ก็ควรจะทำในสิ่งที่ต้องทำเมื่อภาระความรับผิดชอบมากเพิ่มขึ้นจงดำรงชีวิตอย่ างคุ้มค่าและสุขสบายสูงที่สุด
ข้อคิด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13435/