poker online

ปูนปั้น

​​​​​​​มหาลัยราชภัฏรักษาความเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ในกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ!!

Started by Raksngbs, January 13, 2023, 06:39:13 PM

Previous topic - Next topic

Raksngbs

ม.ราชภัฏ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (อังกฤษ: Suan Sunandha Rajabhat University; คำย่อ: มรภ.สส. – SSRU) เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ7 ตั้งอยู่ในพื้นที่วังสวนสุนันทา อันเคยเป็นเขตพระราชฐานของพระราชสำนักดุสิตในรัชกาลที่ 5 มาก่อน นักเรียนและนิสิตของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาทุกคนจะใช้คำแทนตนเองว่า "ลูกพระนาง" ซึ่งพระนางในที่นี้คือสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ว่าพระนางไม่มีส่วนทราบเรื่องสำหรับการจัดตั้งและก็มิได้รู้จักมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาแต่อย่างใด

มหาวิทยาลัยที่นี้มีรากฐานมาจากการตั้ง "สถานที่เรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย" ตอนวันที่ 17 พ.ค. พ.ศ. 2480 เปิดสอน ประกาศนียบัตรประโยคอาจารย์ประถม (ป.เปรียญ) ต่อมาก็เลยได้ยกฐานะขึ้นเป็น "วิทยาลัยครูสวนสุนันทา" ในปี พุทธศักราช 2518 ตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พุทธศักราช 2518 เปิดสอนถึงระดับปริญญาตรี หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต ราชภัฏ

วันที่ 14 ก.พ. พุทธศักราช 2535 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยอำนาจวาสนามหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระขอความปรานีโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "สถาบันราชภัฏ" เป็นชื่อสถาบันการศึกษาในสังกัดกรมการฝึกหัดครูกระทรวงศึกษาธิการ อีกทั้งได้พระราชทานตราพระราชตราลัญจกรประจำท่านให้เป็นตราเครื่องหมายประจำสถาบันราชภัฏ ทำให้วิทยาลัยครูสวนสุนันทามีชื่อเป็น "สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา" โดยอัตโนมัติ แต่ยังไม่เป็นทางการ เนื่องด้วยยังไม่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งเมื่อได้ประกาศใช้พ.ร.บ.สถาบันราชภัฏในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 ม.ค. พ.ศ. 2538 วิทยาลัยครูสวนสุนันทาจึงมีสถานะเป็น "สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา" อย่างเป็นทางการ

ในวันที่ 15 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2547 พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พุทธศักราช 2547 ได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา มีผลให้สถาบันราชภัฏสวนสุนันทายกฐานะเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา" นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ประวัติมหาวิทยาลัย

สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีและสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์  �������ราชภัฏ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ได้ทรงความคิดว่าสถานที่ในพระบรมมหาราชวังชั้นในแออัดคับแคบ ไม่เหมาะสมจะเป็นที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน ก็เลยโปรดให้สร้างพระตำหนักรวมทั้งอาคารในบริเวณสวนสุนันทาขึ้นอีกหลายหลัง แล้วโปรดให้เป็นที่ประทับของพระมเหสี เจ้าจอมมารดา เจ้าจอมรวมทั้งลูกหญิง ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปริมาณ 32 พระราชวัง และก็อาคารบ้านพักของบรรดาข้าราชบริพาร โดยมีสมเด็จพระวิมาตุรงค์เธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีทุ่งนาฎ ปิยมหาราชปดิวรัดา ได้เสด็จมาประทับ ณ วังสายสุทธานพดล (ตึก 27) ตั้งแต่ พุทธศักราช 2467 ถึง พุทธศักราช 2472 (สิ้นพระชนม์ ณ พระราชวังที่ประทับสวนสุนันทา) เนื่องจากในสมัยนั้นบรรดาเจ้าขุนมูลนาย เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีบรรดาศักดิ์นิยมนำบุตรี และหลานของตัวเองมาเสนอตัวต่อสมเด็จพระวิมาตุคุณฯ เยอะมากๆ สมเด็จพระวิมาตุคุณฯ ก็เลยทรงให้สร้าง "สถานศึกษานิภาคาร" ขึ้นข้างในสวนสุนันทา สอนตามหลักสูตรการเล่าเรียนในสมัยนั้น และก็อบรมจริยา มรรยาท งานฝีมือ ให้เป็นกุลสตรี

ม.ราชภัฏ ครั้นถึงปี พุทธศักราช 2475 ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้น บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ ในสวนสุนันทาหวั่นเกรงภัยจากการบ้านการเมือง จึงได้ทะยอยกันออกไปจากสวนสุนันทาจนถึงหมดเกลี้ยง บางท่านได้เสด็จออกไปอยู่หัวเมืองแล้วก็หลายท่านเสด็จหลบภัยการบ้านการเมืองไปอยู่เมืองนอก สถานที่เรียนนิภาคารก็เลยเลิกปฏิบัติงานไปโดยปริยาย นับจากนั้นมาสวนสุนันทาที่เคยงดงามก็ถูกทอดทิ้ง ขาดการดูแลเอาใจใส่ ตำหนักต่างๆชำรุดทรุดโทรมเป็นอันมาก พื้นที่ด้านในรกร้างว่างเปล่า ถัดมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร แผนกผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มีความคิดเห็นว่าสวนสุนันทาถูกทอดทิ้งรกร้างอยู่ไม่ได้ทำประโยชน์ จึงเห็นสมควรให้นายกฯได้ใช้ประโยชน์ เป็นที่อยู่ที่อาศัยของรัฐมนตรีและผู้แทน แม้กระนั้นสภาผู้แทนราษฎรขอเพียงพื้นที่ด้านนอกกำแพงติดถนนสามเสนสร้างเป็นบ้านพักของส.ส.เท่านั้น คณะรัฐมนตรีจึงลงมติเห็นสมควรว่า ควรใช้สถานที่นี้ให้มีคุณประโยชน์แก่การเล่าเรียนและก็มอบให้กระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการในขณะนี้) ดำเนินงานตั้งขึ้นให้เป็นสถานศึกษาของชาติ รวมทั้งสถานที่เล่าเรียนนี้ให้ชื่อโดยคงชื่อเดิมของสถานที่เพื่อเป็นที่ระลึกนึกถึงโดยขนานนามว่า "สถานศึกษาสวนสุนันทาวิทยาลัย" เริ่มเปิดการศึกษาเล่าเรียนมาตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2480 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันนี้ดุจคำขวัญมหาวิทยาลัยที่ว่า จากพระราชอุทยานสู่สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยเอตทัคคะที่มีอัตลักษณ์
�������มหาวิทยาลัยราชภัฏ