การออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงาน

[kaidee20]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแดด โดยที่จะจำต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มไม้ใบในความเร็วที่พอดี เพื่อลดอุณภูเขาไม่ภายนอกใกล้บริเวณบ้านแล้วก็ ป้องกันลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากเกินไป โดยควรปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกรวมทั้ง ทิศตะวันตก



2. ควรที่จะเลือกชนิดต้นไม้ที่สมควรสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามเขตแดนอย่างเช่น ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา เป็นต้น เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลและรักษา เพราะต้นไม้พวกนี้มีความเคยชินกับภาวะทำเลที่ตั้ง รวมทั้งสภาพอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูเขามิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆบริเวณบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน ทำน้ำตกเลียนแบบ ฯลฯ

4. ถมดินบริเวณรอบบ้านให้สูง เพื่อพื้นและก็ผนังนิดหน่อยต่ำกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ และก็ปลูกไม้พุ่มบริเวณผนังบ้าน



5. ในเรื่องที่มีพื้นที่จำกัด บางครั้งอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน แล้วก็ลดความแรงของแสงอาทิตย์ที่ ส่องผิวอาคาร



6. ทำรางน้ำรวมทั้งท่อสำหรับระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆด้านในบ้านให้ เหมาะสม เพื่อคุ้มครองป้องกันความชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางทีอาจจะทำท่อเพื่อระบายน้ำที่ได้จาก แนวทางซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. ถ้าปรารถนาทำที่หยุดรถยนต์ ควรจะทำที่จอดรถยนต์พร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคารวมทั้งผนัง โดยความหนาของฉนวนที่ใช้จะต้อง ขึ้นกับภาระหน้าที่สร้างความเย็น แต่ว่าส่วนมากใช้ฉนวนที่มีความดกประมาณ 2-3 นิ้ว (50-75 มิลลิเมตร) ฉนวนสำหรับหลังคารวมทั้งฝาผนังมีหลายประเภท ดังเช่น ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกลงสีผนังข้างนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้อุปกรณ์ที่มีผิวมันแล้วก็กันความชุ่มชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนก้าวหน้า

10. สำหรับผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรจะเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างจำพวกบานกลับที่สามารถควบคุมปริมาณลมได้ดียิ่งไปกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างชนิดบานเลื่อน

11.ติดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นจะต้องเพียงแค่นั้น โดยให้เพียงพอสำหรับการรับแสงไฟจากธรรมชาติ รวมทั้งควรจะหลีกเลี่ยงการต่อว่าดตั้งด้านทิศตะวันออกและก็ตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวระดับเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือรวมทั้งทิศใต้ เพราะว่าสามารถบังแสงแดดในช่วงเที่ยงตรงและช่วง บ่าย ส่วนกันสาดแนวตั้งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก



13. จัดตั้งผ้าม่านหรือม่านบริเวณหน้าต่างกระจก เพื่อคุ้มครองป้องกันความร้อนจากแสงสว่าง อาทิตย์เข้าด้านในตัวบ้าน ส่วนการตำหนิดฟิล์มกรองแสงที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้จะปกป้อง ความร้อนจากแสงแดดได้ดีมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นรายจ่ายสูงขึ้นมากยิ่งกว่าจึงไม่ค่อยได้รับความนิยม

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่อยากได้ปรับอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองเหนือ รอบๆที่จอดรถหรือระเบียง ควรมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองป้องกันการนำความร้อนจากด้านนอกผ่านใต้พื้นห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. ติดตั้งพัดลมที่มีไว้สำหรับระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ภายนอก

16. ทำเฉลียงยื่นพร้อมติดกันสาดในทิศตะวันออกและทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งรับประทานอาหารว่างหรือใช้ปรุงอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. ทิศเหนืออยรั่วด้วยปูนซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องจัดตั้งประทีป ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่จัดแจงไว้สำหรับเดินท่อน้ำ ฯลฯ เพื่อคุ้มครองความ ร้อนจากข้างนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. ทิศเหนืออยรั่วตามรอยต่อ ระหว่างผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อคุ้มครองป้องกันความ ร้อนและก็ความชุ่มชื้นจากด้านนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในกรณีที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้รวมทั้งชั้นที่มีไว้สำหรับวางของให้สมควร ไม่บังลม ไม่กีดกั้นการระบาย อากาศ และไม่บังแสงสว่าง

20. จัดวางโต๊ะเขียนหนังสือให้เบือนหน้าไปในฝาผนังด้านที่รับแสงสว่างธรรมชาติได้

21. หมั่นดูแลชำระล้าง ประพรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เฉอะแฉะ เพื่อลดภาระทำความเย็นเพราะว่าความร้อนแฝง



22. แยกห้องใช้สอยโดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ ช่วงเวลาเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยเกือบจะตลอดวันให้อยู่ทิศเหนือ เนื่องจากจะเย็นสบายที่สุด อย่างเช่น ห้องรับแขกอยู่ในทิศเหนือ ฯลฯ

23. ควรจะจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ แล้วก็ต้องไม่มีเครื่องกีดขวางทางลมเข้าและออกจากคอนเดนเซอร์ ในด้านทิศ เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะติดตั้งคอนเดนเซอร์เยอะที่สุด แต่หากไม่ สามารถติดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดด้านทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลทะนุบำรุงสะดวก รวมทั้งใน ที่ๆไม่ส่งเสียงรบกวนเข้ามาภายในห้อง



25. ควรจะติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ข้างในห้องปรับอากาศ ให้สมควรหมายถึงไม่สมควรได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะว่าจะมีผลให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าผิดพลาด และก็ควรติดตั้งในบริเวณที่มีความสามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและก็ รวมทั้งสบายต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามต้องการ

26. ควรจะจัดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในบริเวณที่ไม่ปรับอากาศแล้วก็เปิดโล่งเตียน ยกตัวอย่างเช่น ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนแล้วก็ลดความชื้นที่ปลด ปล่อยมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ แม้กระนั้นถ้าหากจำเป็นต้องจัดตั้งในห้องปิด น่าจะจำเป็นต้องติด ตั้งพัดลมที่มีไว้เพื่อระบายอากาศ เพื่อป้องกันการสั่งสมความร้อนรวมทั้งความชื้นด้านในห้อง



27. ไตร่ตรองทำครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แต่ว่าถ้าเกิดหลบหลีกไม่ได้ครัวที่อยู่ ข้างในตัวบ้านควรจะมีการระบายความร้อนที่ดี เพราะห้องครัวมักประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายแบบ ดังเช่น เตาอบ เตาหุง กาที่เอาไว้สำหรับต้มน้ำร้อน ตู้แช่เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปลดปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. ติดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำการหุงหาอาหารแล้วก็อากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากด้านนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง

29.เลือกใช้เครื่องมือและเครื่องใช้ไฟฟ้าความสามารถสูง นอกเหนือจากที่จะอดออม พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย ดังเช่น ใช้ตู้แช่เย็นความสามารถสูง ใช้หลอดไฟฟ้าสมรรถนะสูง ฯลฯ